really everybody know that the modeling of real LEADER r our majesty the king... so i think that morality and law still be choise that waiting for the real of how we realize to done...the right thing.. got the appropriate or not..? all be progress...i still think only one thing...how we return all our people 's benefit to our people 's grab?? by low est public damage or nothing loose at all??? empthy day of sugar day.. พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร ผมรูสึกตื่นเตนและเปนเกียรติมาก อยากจะเรียน วานี่เปนครั้งแรกในชีวิตที่ไดมาพบทานที่เปนผูนําชุมชนที่แทจริง ซึ่ง มีที่มาหลากหลายและไดมาอยูในหองเดียวกันในวันนี้ ไดไปแอบ ดูรายชื่อของทาน หลายทานมาจาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเปนบานเกิดของผมเอง.. พล.ต.อ. วสิษฐ เดชกุญชร ขอเรียนเพิ่มเติมวา คําแนะนําของทานพิธีกรอาจจะทําใหเขาใจวาผมเปนคนทะเยอทะยาน ทาง การเมือง ถึงไดเคยเปนวุฒิสภาและรัฐมนตรีชวยวาการกระทรวงมหาดไทยดวย ขอเรียนวาการเปนวุฒิสภา ครั้งแรกนั้นเปนผลพลอยได จากการเปนขาราขการตํารวจชั้นผูใหญสมัยโนนคือเปนรองอธิบดีกรมตํารวจเลยไดเปน นอกจากครั้งที่สอง ครั้งสุดทายในป 2539 ที่ไดเปนสมาชิกวุฒิสภานั้น เนื่องจากคุณบรรหาร ศิลปอาชา ซึ่งเปน นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ทานเปนผูเลือก ขอใหมาทํางานดวยผมเห็นเปนโอกาสที่จะไดทําอะไรใหบานเมืองก็เลยรับปาก ไป ทั้งที่ไมคิดอยากเปน ถาหากจะใหลงสมัครรับเลือกตั้งไมวาตอนนี้หรือตอนนั้นผมไมลงแนนอน วันนี้จะมาพูดคุยในเรื่องเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ตองเรียนออกตัวกอนวาขอมูล ที่ไดฟงสวนใหญมาจากประสบการณสวนตัวที่เขาไปรับใชพระยุคลบาท เปนเวลารวมแลวประมาณ 15 ป เพราะฉะนั้น จึงเปนขอมูลเกา แตขอเรียนยืนยันไดวา ทานที่สนใจสามารถนําขอมูลเกาของผมไปตรวจสอบกับขอมูลใหมที่ไดจาก การวิจัย การดูขาวในพระราชสํานัก จะเห็นทีเดียววาขอมูลเกากับใหมไมหางกัน เพราะวาพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจซ้ํา คือทําแลวทําอีก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประชาชนจะเห็นวาพระเจาอยูหัว ของเรา ทรงปฏิบัติทํานองเดียวกัน คือทําแลวทําอีก ทําไมเลิกรา 15 ปที่ตามเสด็จพระองคทาน แรกทีเดียวผมก็ไมเขาใจ เมื่อสมัยที่เสด็จพระราชดําเนินไปถิ่นทุรกันดารโดยเฉพาะในปา บนเขาอยางที่จังหวัดทางภาคเหนือ ปกลายนี้ เสด็จไปบานโนนแลว ปนี้ก็เสด็จไปอีก ปตอไปก็เสด็จไปอีก คนจะไมเขาใจวาทําไมจึงเสด็จไปอีก ไปถึงก็จะเจอ ผูใหญบานคนเดิม อาจจะเปลี่ยนบางก็ ผูวาฯ หรือนายอําเภอ สวนในระดับหมูบานจะเปนคนเกา และพอไปถึงแลว ก็รับสั่งความเกา .......ผมจะยกตัวอยางหมูบานเล็ก ๆ แหงหนึ่งที่เปนหมูบานกะเหรี่ยงอยูในจังหวัดแมฮองสอน ผมจําไดวาทานเสด็จไปถึงปแรกทานก็ไปเจอชาวบาน แลวไปเห็นวาที่หมูบานนั้นการเพาะปลูกยังไมกาวหนา.. ผูใหญบานทูลขอพระราชทานคูสงน้ําไปเลี้ยงพืชที่ทําการเพาะปลูก พระองคก็พระราชทานเงินให ถาจําไมผิดดู เหมือนจะเปนเงิน 20,000 บาท พอปถัดมาทานไปถึงก็เสด็จไปหมูบานเดิม ผมก็ไปเห็นที่หมูบานมีคูสงน้ําจริง ๆ แตในคูนั้นมีตนหญาขึ้นรกรุงรังไปหมด แสดงวาชาวบานไมไดชวยกันรักษาคูสงน้ําใหเปนที่สงน้ําไดแตกลับกลาย เปนที่ปลูกหญา พระเจาอยูหัวก็เสด็จไปแลวก็รับสั่งกับเขาเรื่องประโยชนของน้ํา เรื่องการชักน้ําเขาที่เขาทาง /เหมือนกับปกอน... เหมือนกับปกอนที่รับสั่งไว หมูบานอื่นก็ทํานองเดียวกันเสด็จไปอีก เสด็จไปแลวทรงจําไดหมด แมกระทั่งชื่อคน ในครอบครัวของผูใหญบาน ...บางปไปถึงตองไปเปนตุลาการใหกับกรณีในครอบครัว ผัวทิ้งเมียคนนี้ไปอยูกับเมีย อีกคนหนึ่งแตไมยอมหยากับคนนี้ คนนี้อยากมีผัวใหมก็มีไมได พระเจาอยูหัวตองไปเปนกรรมการ....... จนกระทั่งหลายปตอมาผมถึงไดตระหนักวา... พระเจาอยูหัวนั้นทานทรงมีคุณสมบัติของผูนํา ประการหนึ่งที่ผูนําสมัยใหมไมคอยมี นั่นคือ ความบากบั่น พากเพียรที่จะทําสิ่งที่ถูกตองแมวามันจะยังไม ปรากฎผลในขณะนี้ ก็ยังบากบั่นทําตอไปจนกวาผลจะปรากฎ ทานไมยอมเลิกงาย ๆ ตางกับผูนําสมัยนี้บางคน หรือหลายคนที่ไปขึ้นตนอะไรไวแลวก็ทิ้งเลย เรื่องที่จะกลับไปดูอีกที ไมไปหรือไปไมไหวเพราะมีของที่จะตองทํา มาก นี่เปนบทเรียนที่ผมเริ่มไดจากการตามเสด็จแตก็เปนเวลาหลายปตอมา... เวลาเสด็จพระราชดําเนินไปประทับตางจังหวัด จะเรียกวาเปนธรรมเนียม ของในวังก็ไดที่วันหยุดสุดสัปดาห ในวังจะตองเชิญขาราชการ พอคาประชาชน เขาไปรับพระราชทานเลี้ยง โดยเฉพาะผูที่มีหนาที่เกี่ยวของ ผูนําทองถิ่น ถา เปนสมัยนี้ก็ไดแกทานทั้งหลายที่นั่งอยูในที่นี้ ผมมีโอกาสไดนั่งโตะเสวย เปนครั้งแรกเมื่อตอนที่ขออาสาสมัครไปเปนตํารวจตระเวนชายแดน และไป เปนครูฝก ตชด.เมื่อเดือนเมษายน ป พ.ศ.2510 สิ่งที่ไดเรียนรูในโตะเสวย ครั้งนั้นก็คือพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงใชทุกสถานที่และทุกโอกาสใหเปนประโยชน ที่เอาไปนั่งโตะเสวย กันนั้นมิใชเอาไปนั่งคุยสนุกเรื่องโนน เรื่องนี้ ในโตะวันนั้นผมจําไดวามีผูใหญทั้งทางบานเมือง พลเรือน ทหาร และตํารวจ สิ่งที่รับสั่งดวยเปนเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนเย็นวันนั้น ซึ่งเปนเวลาที่ทานเสด็จออกนอกที่ประทับ... ไปเยี่ยมชาวบาน ปญหาทั้งนั้น ชาวบานพูดวาอะไร เรื่องอะไรทานก็ทรงนําเอาเรื่องนั้นมารับสั่งในโตะเสวย แลวก็พระราชทานใหกับผูที่มีหนาที่เกี่ยวของ สําหรับที่จะเอาไปชวยแกไขปญหาของชาวบานตอไป ผมไดความรูเปนครั้งแรกในชีวิตวาโตะเสวยเปนที่ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวและ ตอมาอีก 15 ป หลังจากที่ไดเปนนายตํารวจราชสํานักประจําจริง ๆ แลว ผมจึงไดทราบและยุติไดวาพระเจาอยูหัว ทรงใชทุกแหงเปนที่ทํางาน แมกระทั่งบนเครื่องบินที่พระเจาอยูหัวเสด็จไปทรงงานก็จะมีเครื่องมือการทํางานอยูครบ ขณะประทับอยูบนเครื่องบิน พระองคจะทรงทราบตลอดวาขณะนั้นเครื่องบิน บินอยูตรงสวนไหนของประเทศ แลวถาทรงนึกขึ้นไดก็จะลุกขึ้นมาตรัสถามเจาหนาที่วาตรงนี้ที่น้ําทวม ตอนนี้เปนอยางไร ใครที่ตามเสด็จพระเจาอยูหัว ใกลชิดอยางนั้นทุกคนตองพรอมที่จะถวายขอมูลตลอดเวลา จึงทําใหผมตองหัดตัวเองใหเกงขอมูล เสด็จไหนก็ ตามพวกเราตองออกไปกอน สํารวจพื้นที่ ชีวิตชาวบาน ศึกษาสถานการณ ศึกษาสภาพความเปนอยูของประชาชน และที่สําคัญอีกประการหนึ่งคือศึกษาวาวัดไหนมีพระอาจารยอะไรอยู “พระ” ที่พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว โปรดเขาไปหา และทรงปฏิ สันถารดวย คือพระกรรมฐาน ครูบาอาจารยเหลานั้นทั้งที่ยังมีชีวิตอยูและไดสิ้นไปแลว ลวนเคยไดแลกเปลี่ยนธรรมกับพระเจาอยูหัวมาแลว พระองคไมไดทรงศึกษาเฉย ๆ แตทรงปฏิบัติดวย สิ่งนี้จึง เปนคุณสมบัติอีกประการหนึ่งของผูนําที่พระเจาอยูหัวทรงมี นั่นคือ ไมทิ้งธรรม /ผมเคยตามเสด็จ... 23 ผมเคยตามเสด็จพระเจาอยูหัวไปในการพระราชพิธีปริญญาบัตร พบวาบางครั้งพระองคทรง ประทับนานถึง 4 ชั่วโมง โดยไมมีเคลื่อนพระวรกายเลยแมแตนิดเดียว ไมมีการขยับเพราะเมื่อย ไมมีการเลื่อน พระบาทไปขางหนาหรือขางหลัง พระเจาอยูหัวของเราไมทรงหนีทุกขเวทนาแตทรงสามารถอยูกับทุกขเวทนาได ไมจํากัด ซึ่งผูที่ฝกสมาธิมาเปนอยางดีแลวเทานั้นจึงจะทําเชนนี้ได พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงปฏิบัติสมาธิ ดวยการเจริญอานาปานสติคือกําหนดลมหายใจเขาออก ดวยการหายใจเขานับ 1 หายใจออกนับ 1 หายใจเขา นับ 2 หายใจออกนับ 2 จนถึง 5 แลวยอนกลับมานับหายใจเขานับ 5 หายใจออกนับ 5 แลวก็ 4 3 2 1 แลวก็กลับมาเริ่มตนใหมจนถึง 10 อยางนี้ไปเรื่อย ๆ การที่ทรงมีความสามารถในการดํารงสติเอาไวไดตลอดเวลา นี้ ทําใหพระองคทรงสามารถนําแนวทางนี้ไปใชในการทํางานทุกอยาง นี่เปนเหตุผลที่วาทําไมจึงทรงเปนผูนําที่ ลึกซึ้งจริง ๆ ในปญหาแตละปญหาที่ทรงศึกษาและทรงปฏิบัติ ทั้งนี้เพราะไดจากการฝกจิตเปนลําดับแรกแลว เอาไปประยุกตกับงานที่ทํา ...กอนที่จะเขามาในหองนี้ผมไดถามเจาหนาที่โครงการวาตอนเชาที่มีกิจกรรม เสริมสรางคุณคาชีวิตนั้นไดมีการฝกสมาธิหรือเปลา ทราบวาไมมี ผมขอแนะนําวาระหวางตีหาครึ่งถึงหกโมง ครึ่งขอใหฝกสติโดยการทําสมาธิประมาณ 5 นาทีก็พอ ทานที่เคยฝกแลว จะรูวาผมพูดอะไร ถาไดฝกสติแลว จะทําใหเกิดความรูตัว ความรูตัวนี่เองที่ทานสามารถจะนําไปใชกับงานในตําแหนงหนาที่ไมวาทานจะเปนกํานัน ผูใหญบาน อบต. แลวทานจะพบวาทานสามารถจะทํามันไดดวยความจดจอ ไมฟุงซาน ไมวอกแวก งานของ ทานจะเสร็จเร็วและมีตําหนินอย ขอแนะนําดวยความจริงใจใหทุกทานฝกสมาธิ ขอใหฝกจริง เพราะไดเห็น คุณคาของการฝกสมาธิจากพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวของเรา การฝกสมาธินี่เองที่ทําใหพระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัวทรงสามารถที่จะเผชิญกับวิกฤติการณทุกครั้งไมวาใหญหรือนอยในบานเมืองได ที่สําคัญอีกประการหนึ่งคือพระเจาอยูหัวไมทรงคิดไปกอนวามันจะเปนอยางนั้น อยางนี้ การคิด ไปกอนเปนอันตรายกับตัวเรามาก สิ่งที่คนฉลาด ผูนําที่ฉลาด พึงหัดใหตัวเองทําใหไดคือ สนใจอยูกับสิ่งที่ กําลังเผชิญในขณะนี้ ตรงนี้ ในที่ประชุมนี้ถาเผื่อใครกําลังคิดถึง อบต. หรือตําบล หรือที่ทํางานของตนเอง ไมวาที่ไหนก็ตาม แปลวาใชไมได เพราะงานเฉพาะหนาของทานขณะนี้คือฟงผมพูด ทานที่หลับไปแลวยิ่งแย ใหญเลย เพราะเหตุวาไมเอาเลยทั้งอดีต อนาคตและปจจุบัน หายสาบสูญไปจากโลก ตรงนี้ตางหากคืองาน ที่ตองทํากอน กอนที่ผมจะเขามาในหองนี้ผมปดโทรศัพทหมดเลย เพราะหากมีเรื่องดวนอะไรเกิดขึ้น ผมก็ทํา อะไรไมไดเพราะผมนั่งอยูที่นี่ ฉะนั้นปจจุบันสําคัญที่สุด ทํางานตรงนี้ใหดีที่สุด ใหเสร็จ พกเอาตํารานี้กลับไป ดวย เพราะตํารานี้คือตําราของพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว พระองคไมทรงคิดไปกอนไกล ๆ แตวางแผน การวางแผนเปนงานปจจุบันไมใชงานอนาคต วางแผนเสร็จแลวทําตามขั้นตอนที่วางไว การวางแผนคืองาน ปจจุบันเพื่อเผชิญกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อถึงเวลานั้นคือถึงปจจุบันจึงทําตามที่วางไว นี่เปนอีกตําราหนึ่ง ที่ผมไดมาจากในวัง จากพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว เรื่องของการ ”ให” ก็เปนอีกสิ่งหนึ่งที่สําคัญ ในปจจุบันผูนําของเราขาดการให คําวา ทาน ที่ แปลวาการใหนี้ เปนขอที่หนึ่งในทศพิธราชธรรม ไมไดหมายถึงวาจะตองควักกระเปาเอาอะไรใหเขาเพียงอยาง เดียว แตทานนั้น หมายถึงการใหคําแนะนําสั่งสอน ใหสิ่งที่เปนประโยชน ใหสติ ใหคําปลอบโยน ... /ผูนําตองรูจักให...ผูนําตองรูจักให การใหแบบผูนําที่แทจริงแบบพระมหากษัตริย เปนการใหที่ไมตองการผลตอบแทน ขอเลาใหฟงถึงตัวอยางการใหรายหนึ่งที่ผมมีสวนเกี่ยวของดวย ที่จังหวัดสิงหบุรี คือ ชาวนาราย หนึ่งที่จังหวัดสิงหบุรีถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัววาตนไดนําที่ดินไปจํานองไวแลวก็สงตอไมได ที่ดิน กําลังจะหลุดจํานองจึงขอพระราชทานใหพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวชวยไถที่คืนให พระเจาอยูหัวรับสั่งใหผม ออกไปดูสภาพขอเท็จจริงวาเปนอยางที่ชาวนาผูนี้บอกหรือไม พบวาขอมูลเปนความจริง พระเจาอยูหัวจึง พระราชทานทรัพยสวนพระองคใหไปไถที่คืน โดยมีเงื่อนไขวาชาวนาผูนี้ตองสงเงินถวายใชพระเจาอยูหัวเปนขาว ที่ปลูกได คือหลังจากเก็บเกี่ยวแลวตองนําขาวมาสงที่โรงสีสวนพระองคในสวนจิตรลดา เปนระยะเวลาตาม จํานวนเงินที่ยืมไป จําไดวาการเปนอยางนี้ติดตอมาเปนเวลา 4-5 ป ซึ่งแสดงใหเห็นถึงความซื่อตรงของชาวนาผู นี้ไดแลว และขณะนั้นเงินที่ยืมพระเจาอยูหัวไปคงเหลือไมถึงครึ่ง พระเจาอยูหัวไดทรงมีพระราชกระแสรับสั่งลง มาวา ชาวนาผูนี้ไดพิสูจนแลววาเปนคนที่มีความขยันหมั่นเพียรและตรงตอสัญญา เงินที่เหลือจึงพระราชทาน ใหชาวนาผูนั้นไป นี่เปนตัวอยางของทาน ของพระมหากษัตริย ฉะนั้น เปนผูนําตองรูจักใหทาน เปนผูนําตองมีศีล ผมไดอานพบในเอกสารโครงการแลวก็ชื่นชมวา กติกาขอหนึ่งของการอยู รวมกันนั้น หามเสพสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอลทุกชนิด ขออนุโมทนากับวิทยาลัยการพัฒนาชุมชนและหวังวา คงจะไดเห็นขอนี้อยูไปเรื่อย ๆ โดยไมมีใครลบออก.... พระเจาอยูหัวของเราก็ทรงศีล ทานลองคิดดูใหดีวางานที่ ทานทําอยูในขณะนี้มันคืองานอะไรพระเจาอยูหัวเมื่อ เสด็จขึ้นครองราชยในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได ทรงประกาศ ปฐมบรมราชโองการวา “เราจะครอง แผนดินโดยธรรมเพื่อประโยชนสุขแหงมหาชนชาว สยาม” ถามวาทานที่นั่งอยูนี้กําลังทําหนาที่เพื่อ ประโยชนสุขของใคร ถาทานตอบผมวาทาน กําลังทําหนาที่อยูเพื่อประโยชนสุขของประชาชนใน ทองที่ของทาน ในตําบล ในเขตความรับผิดชอบ ของทาน ทานกําลังทําอยางพระเจาอยูหัวใชหรือเปลา ถาทานกําลังทําอยางพระเจาอยูหัว ทานตองถือหลัก เดียวกันกับพระเจาอยูหัว พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงปฏิบัติตามทศพิธ-ราชธรรมได ทานตองใช ทศพิธราชธรรมไดเชนเดียวกัน ทศพิธราชธรรมมิใชของพระเจาอยูหัวเพียงพระองคเดียว แตเปนของทุกคนที่มี หนาที่อยางพระเจาแผนดิน ทานทั้งหลายเปนหลักของทองที่ทํานองเดียวกันกับที่พระเจาอยูหัว เปนหลักของ ประเทศ ทานกําลังทําสิ่งเดียวกันแตในพื้นที่ที่เล็กที่ยอมลงมาเทานั้นเอง ดังนั้นจะใชหลักอื่นผิดแผก แตกตางไป จากพระเจาอยูหัวไมได เพราะฉะนั้นขอใหศึกษาทศพิธราชธรรมและนําไปปฏิบัติ ทานตองให ศีลตองถือ อยากลัวศีล ถาทานทั้งหลายถือศีล ลูกนองใกลตัวก็จะเริ่มลดการละเมิดศีลโดยปริยาย แลวอานิสงสนี้จะแผไป ถึงชาวบาน เวลานี้เรากําลังหาหมูบานปลอดสุรา การที่จะมีหมูบานปลอดสุราได ใครจะเริ่มตนกอนถาไมใช ผูนําทองถิ่น เพราะฉะนั้นถาตัวเองเปนผูนําทองถิ่นแลว จงศึกษาและขอใหเห็นความสําคัญวา “ศีล” ศักดิ์สิทธิ์ /เหลือเกิน...เหลือเกิน ในเรื่องการแกปญหาเกือบทุกอยางในชีวิต ศีล 5 ขอ แคหาขอเทานั้น ทําใหไดแลวทานจะเอาชุมชน ของทานไวไดแนนอน ไมใชไดเพราะใชกําลังขมขูบังคับแตไดเพราะเหตุวาเขาเลื่อมใสผูนํา เพราะฉะนั้นขอให เริ่มตั้งแตเดี๋ยวนี้ อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกแกผูที่แขวนพระแลวชอบดื่มเหลา ขอใหเตือนตัวเองดวยนะครับวา ทุกครั้งที่ทานยกเหลาขึ้นใสปาก ทานกําลังยกเหลาขามหัวพระ ถวยหนึ่งก็ขามที ถวยหนึ่งก็ขามที แลวพระจะ อยูกับเราไหม? คุณสมบัติขอตอไปคือ ความไมโกรธ เปนผูนําเขาตองไมโกรธ ถาโกรธขึ้นมาอยาเพิ่งทําอะไร ทั้งสิ้น ใหไปหาที่สงบ สวดมนต เพื่อเรียกสติกลับมา ผูนําที่ใชไมไดคือ โกรธแลวไมควบคุมตัวเอง หลุดปากดา ลูกนองตอหนาคนอื่น หรือเชิญประชุมแลวเอาลูกนองที่โกรธเปนเปาลุกขึ้นประจานกลางที่ประชุม เพราะฉะนั้น จะเปนผูนําเขาจําไวดวย “อยาโกรธ” ตลอดเวลา 15 ป ที่ทํางานรับใชพระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวมา ผมไม เคยเห็นพระองคทานกริ้วหรือทรงโกรธเลยแมแตครั้งเดียว คุณธรรมอีกประการหนึ่ง คือ ความออนโยน ใ น บ ร ร ด า ผู นํา ที่ อ อ น โ ย น ที่ สุ ด ตั้ ง แ ต ที่ ไ ด พ บ ม า พระบาทสมเด็จ พระเจาอยูหัวทรงเปนพระองคหนึ่งแนนอน หยาบคายไมเคยเห็น พูดเพราะ พระสุรเสียง ไมเคยกราว ไมมีเสียงแข็งแบบนายบางคน มีแตรับสั่งออนโยนและเปน ประโยชน มีผูถามวาพระเจาอยูหัวทรงทํางานหนักอยางนี้ ทรงมีหลักอะไร ขอบอกวา พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวทรงใชอิทธิบาท 4 คือ 1.ฉันทะ คือ ความพึงพอใจในสิ่งที่ทํา 2.วิริยะ มีความบากบั่น หากเสด็จไปที่แหงใด แลวไมสามารถใชยานพาหนะเขาไปได พระองคจะทรงพระราชดําเนินไปเอง พระองคทรงแตกฉานในเรื่องดินกับน้ํา ความรูของพระองคนี้ไดมาจาก ความบากบั่น 3.จิตตะ มีความเอาใจใสจดจอ (ผูนําเปนอันมากไมมีอิทธิบาทขอนี้) ความใสใจทําใหเกิด ความจําได พระเจาอยูหัวทรงมีความจําดี (ชางจํา) ซึ่งเปนคุณสมบัติสําคัญอีกประการหนึ่งที่ผูนําควรมี 4.วิมังสา คือทําแลวไมทิ้ง พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัวไมเคยทรงทิ้งงานเลยแมแตชิ้นเดียว บรรยายในหลักสูตรผูนําการเปลี่ยนแปลงชุมชนรุนที่ 1 วันที่ 22 กรกฎาคม 2551 ถอดเทปโดย อําพร งามศรีวัฒนาสกุล นักพัฒนาทรัพยากรบุคคล 7 ว กองฝกอบรม 5 ข่าวประชาสัมพันธ์ | |
โครงการเชิดชูเกียรติผู้นำเครือข่ายพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจำปี 2551 | |
โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการการติดตามผลการดำเนินงานพัฒนาชุมชนปี 51 | |
เลื่อนการจัดงาน "วันพัฒนาชุมชน:ระเบียบวาระแห่งชุมชนสู่ชุมชนเข้มแข็ง" ไม่มีกำหนด | |
การจัดสรรงบประมาณโครงการปะชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อถอดบทเรียนการดำเนินงานจัดตั้งสถาบันการจัดการเงินทุน | |
โครงการจากวันแม่ถึงวันพ่อ คน พช.พอเพียง กรมการพัฒนาชุมชน | |
Polsri law and consult +66894761105 sukunya polsrila
Investor..I need you...
บ้านเดี่ยว ถนนเลียบคลองเสาธงหิน กม ที่สอง นนทบุรี บางใหญ่ ข้างรถไฟฟ้า
อสังหาริมทรัพย์, แลกเปลี่ยนที่อยู่อาศัย ใน ไทย, กรุงเทพและปริมณทล, กรุงเทพ. วันที่ ก.ย. 14
GALLERY
Summer hot..hot in UK now..
12/09/2008
leader of the world!!!
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment